ภาคแรกเราได้พาทุกคนไปเดินตลาดและทานปลาสดๆ ล้นชามกันที่ท่าเรือชิมิซึ ตลาดปลาคะชิแล้ว
ต่อไปก็จะพาเพื่อนๆ เดินทางไปชมทัศนียภาพที่ได้รับการกล่าวขานกันว่าเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงามและสง่างามที่สุดแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ มิโฮะโนะมัตซึบะระ
เราจะได้ชมภาพท้องทะเลที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง นับว่าเป็นแหล่งรับพลังที่ดีอีกแห่ง เพราะไม่ใช่แค่ภูเขาไฟฟูจิเท่านั้นที่มีความพิเศษ แต่ระหว่างทางเดินไปชมเราจะผ่านป่าสนเขียวขจีที่มีอายุนับร้อยๆ ปี และมีจำนวนมากถึงสามหมื่นต้น เห็นไหมคะว่าไม่ธรรมดา มีความพิเศษเหมือนกัน
แนวป่าสนฮะโกะโระโมะ |
ท้องฟ้าครึมแต่ก็พอมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ กับแนวสนเขียวขจีที่ทอดตัวยาวตลอดริมฝั่งทะเล
ภูเขาไฟฟูจิโผล่พ้นเมฆ |
ต้นสนที่นี่จะเรียกว่าต้นสนฮะโกะโระโมะ ความพิเศษของต้นสนนี้ คืออยู่ริมทะเลซึ่งมีแนวยาวกินพื้นที่ตลอดริมฝั่งทะเลประมาณ 7 กม.
ต้นสนในป่าสนนี้เป็นที่มาของตำนานเกี่ยวกับผ้าคลุมนางฟ้า และในเดือนตุลาคมของทุกปีจะมีการจัดแสดงละครโนห์เกี่ยวกับตำนานนี้
ร้านขายของตรงปากทางเข้าป่าสน |
ขาเข้าไปในป่าสนก็เล็งไว้ละว่าชมป่าสน ภูเขาไฟฟูจิและทะเลเสร็จ จะมาทานขนมอาเบะคาวะโมจิ ซึ่งเป็นขนมโมจิที่กล่าวกันว่าโชกุน โทะคุกะวะ อิเอยาซุ โปรดปราน ราคากล่องละ 250 เยน ขนมอาเบะคาวะโมจิแบบดั้งเดิมเลยจะมีแต่ขนมโมจิที่โรยน้ำตาลที่ผสมกับถั่วเหลืองป่นสีจะออกเหลืองๆ แต่สมัยนี้จะทำมา สองชนิดคืออีกชนิดจะเป็นโมจิเคลือบด้วยถั่วแดง อร่อยทั้งสองแบบเลย ร้านนี้จะให้น้ำชาฟรี เติมได้ตลอดด้วย
อะเบะคาวะโมจิ |
จากนั้นก็เดินไปบนถนนแห่งเทพเจ้า Kaminomichi ซึ่งเป็นทางเดินไปศาลเจ้ามิโฮะ miho shrine ถนนแห่งเทพเจ้านี้มีความยาว 500 เมตร ข้างทางจะมีต้นสนที่มีอายุมากกว่า 200 ปีขึ้นไปขนาบทั้งสองข้าง
ถนนแห่งเทพเจ้า |
เดินไปจนสุดทางจะมีศาลเจ้า แต่คราวนี้เราขอข้าม เพราะจะไปอีกสองที่
ขอเล่าเรื่องการเดินทางเผื่อท่านที่สนใจอยากจะมากันเอง ท่านสามารถลงเรือได้จากท่าเรือข้ามฟากที่ได้เล่าให้ฟังกันในภาคแรก (ตลาดอาหารทะเลคะชิ) นั่งเรือมาไม่นาน ก็มาต่อรถประจำทาง ลงตรงปากทางเข้าได้เลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น